ครั้งแรกในประเทศไทยกับการแข่งขันนวดไทยชิงแชมป์โลก ยกระดับขีดความสามารถทักษะด้าน Wellness Skilled และตอกย้ำภาพลักษณ์ Wellness Destination ของจังหวัดกระบี่ ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักมากยิ่งขึ้น มีผู้เข้าร่วมกว่า 37 ประเทศทั่วโลก
วันที่ 17 พฤษภาคม 2567 เวลา 09.00 น. นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดการแข่งขันนวดไทยชิงแชมป์โลก ประจำปี 2567 ภายใต้งาน Krabi Wellness Festival จัดขึ้นวันที่ 17 – 18 พฤษภาคม 2567 ตั้งแต่เวลา 10.00 – 19.00 นาฬิกา ณ อาคารสปอต์คอมเพล็กส์ มหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติวิทยาเขตกระบี่ ตำบลกระบี่ใหญ่ อำเภอเมืองกระบี่ จังหวัดกระบี่ เพื่อประชาสัมพันธ์สินค้าและบริการท่องเที่ยวเพื่อสุขภาพในพื้นที่จังหวัดกระบี่เป็นการตอกย้ำภาพลักษณ์ Wellness Destination ของจังหวัดกระบี่ให้นักท่องเที่ยวได้รู้จักมากยิ่งขึ้น เพื่อสร้างคุณค่าและยกระดับขีดความสามารถทักษะด้าน Wellness Skilled ของผู้ประกอบการ อันเป็นประโยชน์ต่อการรองรับนักท่องเที่ยวคุณภาพในอนาคต
นายทวัฒนพงษ์ บุญชิน (ครูเดช) ประธานจัดการแข่งขันสมาพันธ์โลกนวดไทยและสปา กล่าวว่า “สำหรับการแข่งขันนวดไทยชิงแชมป์โลกในครั้งนี้ เป็นครั้งที่ 3 ของโลก โดยครั้งแรกจัดที่ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ และครั้งที่สองที่กรุงโตเกียว ประเทศญีปุ่น และครั้งนี้ที่จังหวัดกระบี่ เป็นครั้งแรกในประเทศไทย ซึ่งมีผู้เข้าร่วมการแข่งขัน จำนวน 372 คน รวมถึงกรรมการ และผู้เข้าร่วมจาก 37 ประเทศ
โดยมีแกนหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ โรมาเนีย เยอรมัน และ ซาอุดิอาระเบีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย แบ่งออกเป็นแข่งขันประเภทนวดไทยแบบผสมผสาน ผู้ร่วมแข่งขัน 100 คน ประเภทนวดไทยสปอร์ต 99 คน ประเภทนวดไทยเพื่อสุขภาพ 100 และประเภทนวดไทยสำหรับผู้พิการทางสายตา 73 คน ซงส่วนใหญ่มาจากสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ซึ่งนอกจากเป็การแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะการนวดแผนไทย การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ยังเป็นการนำภูมิปัญญาการนวดไทย ที่ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นภูมิปัญญาที่ได้สืบสานจากรุ่นสู่รุ่น อีกด้วย
โดยมีแกนหลัก เช่น สหรัฐอเมริกา สวิสเซอร์แลนด์ โรมาเนีย เยอรมัน และ ซาอุดิอาระเบีย สิงคโปร์ และมาเลเซีย แบ่งออกเป็นแข่งขันประเภทนวดไทยแบบผสมผสาน ผู้ร่วมแข่งขัน 100 คน ประเภทนวดไทยสปอร์ต 99 คน ประเภทนวดไทยเพื่อสุขภาพ 100 และประเภทนวดไทยสำหรับผู้พิการทางสายตา 73 คน ซงส่วนใหญ่มาจากสมาคมคนตาบอดแห่งประเทศไทย ซึ่งนอกจากเป็การแข่งขันเพื่อพัฒนาทักษะการนวดแผนไทย การจัดกิจกรรมครั้งนี้ ยังเป็นการนำภูมิปัญญาการนวดไทย ที่ UNESCO ได้ประกาศขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลก เป็นภูมิปัญญาที่ได้สืบสานจากรุ่นสู่รุ่น อีกด้วย
0 ความคิดเห็น