ความจำเป็นต้องฆ่านกยูงอินเดียในป่าห้วยขาแข้งเพื่อรักษาระบบนิเวศให้เสียหายน้อยที่สุดจากเอเลี่ยนสปีชีส์การผสมข้ามสายพันธุ์กับนกยูงไทย
จากกรณีที่มีช่างภาพสมัครเล่นถ่ายภาพนกยูงอินเดียสีขาวและลูกนกสองตัวเดินอยู่ในพื้นที่ป่าบริเวณหอดูสัตว์หอนกยูงบริเวณโป่งช้างเผือก เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่าและพันธุ์พืช จึงสั่งการให้นายเพิ่มศักดิ์ กนิษฐชาต หัวหน้าเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าห้วยขาแข้ง จับนกทั้งสามตัวออกมาตั้งแต่วันที่ 24 มิถุนายน 2567 เนื่องจากการปล่อยให้นกยูงอินเดียผสมพันธุ์กับนกยูงไทยในพื้นที่ จะทำให้เกิดสายพันธุ์ใหม่ที่มีผลกระทบทางลบต่อระบบนิเวศอย่างรุนแรง นกยูงไทย (Pavo muticus) และนกยูงอินเดีย (Pavo cristatus) เป็นสปีชีส์ที่แตกต่างกัน
ซึ่งการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ของนกทั้งสองชนิดนี้จะนำไปสู่การเกิดนกยูงไฮบริดที่มียีนด้อย สุขภาพไม่ดี และอายุสั้น การแพร่พันธุ์ของนกยูงไฮบริดนี้อาจทำให้จำนวนประชากรนกยูงไทยลดลง และเสี่ยงที่จะสูญพันธุ์ในที่สุด การรักษาระบบนิเวศและการคุ้มครองนกยูงไทยในป่าห้วยขาแข้งเป็นเรื่องสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากนกยูงไทยเป็นสัตว์ป่าที่มีน้อยอยู่แล้ว และมีความสำคัญต่อความหลากหลายทางชีวภาพของป่า การกำจัดนกยูงอินเดียที่หลุดเข้ามาในพื้นที่เป็นการป้องกันการเสื่อมสภาพของระบบนิเวศและการสูญพันธุ์ของนกยูงไทยในระยะยาว
ในกรณีนี้ การจับนกยูงอินเดียทั้งสามตัวออกจากพื้นที่จึงเป็นการดำเนินการที่จำเป็น เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการผสมพันธุ์ข้ามสายพันธุ์ที่อาจทำให้ระบบนิเวศเสียหายและนกยูงไทยสูญพันธุ์ไปในที่สุด
การป้องกันการแพร่กระจายของเอเลี่ยนสปีชีส์ในพื้นที่อนุรักษ์เป็นหน้าที่สำคัญของเจ้าหน้าที่อนุรักษ์ และเป็นขั้นตอนสำคัญในการรักษาความหลากหลายทางชีวภาพและความสมบูรณ์ของระบบนิเวศในระยะยาว
อ่านต่อได้ที่ https://news.postjung.com/1556141
0 ความคิดเห็น