ผู้ว่าฯ นราธิวาส ต้อนรับเยาวชน“สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 กลับสู่ภูมิลำเนา อย่างอบอุ่น

 ผู้ว่าฯ นราธิวาส ต้อนรับเยาวชน“สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 กลับสู่ภูมิลำเนา อย่างอบอุ่น   


วันที่ 25 ต.ค.67 ที่ หมวดบินหน่วยเฉพาะกิจภาคใต้ ท่าอากาศยานนราธิวาส ต.โคกเคียน อ.เมือง จ.นราธิวาส ว่าที่ร้อยตรี ตระกูล โทธรรม ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส พร้อมคณะ ต้อนรับเยาวชนตามโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 จากพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ (นราธิวาส ปัตตานี ยะลา ) จำนวน 120 คน ซึ่งเดินทางมาด้วยเครื่องบิน C 130 กลับสู่ภูมิลำเนา ภายหลังได้เข้าร่วมกิจกรรมโครงการสานใจไทยสู่ใจใต้ ในพื้นที่ภาคกลาง กว่าหนึ่งเดือนเต็ม ท่ามกลางบรรยากาศการต้อนรับอย่างอบอุ่น 


ผู้ว่าราชการจังหวัดนราธิวาส ได้กล่าวกับเยาวชนที่ร่วมโครงการ ฯ ว่า ขอให้เยาวชนทุกคน เติบโตเป็นเมล็ดพันธุ์ที่ดี เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับเพื่อนๆ เยาวชน ทุกคนที่ได้ไปร่วมโครงการถือว่า ได้รับโอกาสที่ดี ที่ได้ไปเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วัฒนธรรม วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ยังต่างพื้นที่ ขอให้นำสิ่งที่ได้เรียนรู้ กลับไปถ่ายทอดให้เพื่อนๆ ครอบครัวและคนรอบข้างได้รับรู้อย่างถูกต้อง และร่วมกันพัฒนาพื้นที่บ้านเกิดตนเองต่อไป


ด้านนายซุลอิฟฟาน มามะ นักเรียนชั้น ม. 5 จากโรงเรียนดารุสสาลาม อ.ระแงะ จ.นราธิวาส กล่าวด้วยความรู้สึกประทับใจที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 และดีใจที่ได้มีโอกาสไปอยู่ร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ที่นับถือศาสนาอิสลาม ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา กว่า 15 วัน ซึ่งคุ้มค่ามาก เพราะได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้วัฒนธรรมของพื้นที่ร่วมกัน และครั้งนี้ยังได้เป็นตัวแทนของจังหวัดนราธิวาส แนะนำสถานที่ท่องเที่ยว ที่สวยงามของพื้นที่เรา ซึ่งไม่น่ากลัวอย่างที่ใครๆคิด จนทำให้ครอบครัวอุปถัมภ์ฯ อยากมาสัมผัสบรรยากาศที่จังหวัดนราธิวาส อีกด้วย


สำหรับเยาวชนโครงการ “สานใจไทย สู่ใจใต้” รุ่นที่ 43 ที่เดินทางกลับมาพร้อมเครื่องบิน C130 มาลงยัง จ.นราธิวาส มีจำนวนทั้งสิ้น 120 คน เป็นเยาวชนจากจังหวัดนราธิวาส 91 คน พี่เลี้ยงฯ 4 คน , เยาวชนจากอำเภอไม้แก่น 9 คน อำเภอปานาเระ 9 คน อำเภอสายบุรี จังหวัดปัตตานี 5 คน ,และพี่เลี้ยงจากจังหวัดยะลา 2 คน โดยได้เดินทางไปแลกเปลี่ยนเรียนรู้สังคมพหุวัฒนธรรมในพื้นที่ภาคกลาง ระหว่างวันที่ 24 กันยายน - 25 ตุลาคม 2567 ที่ผ่านมา โดยใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวอุปถัมภ์ที่นับถือศาสนาอิสลามในกรุงเทพมหานคร และจังหวัดใกล้เคียง เพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้สภาพความเป็นอยู่ของครอบครัวอุปถัมภ์และชุมชนสังคมพหุวัฒนธรรม ทำให้เยาวชนได้รับประสบการณ์ตรง และมีความเข้าใจบริบทของสังคมประเทศไทยมากยิ่งขึ้น จนนำไปสู่ความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างครอบครัวอุปถัมภ์กับครอบครัวเยาวชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้


นราธิวาส/ข่าว-ซาการียา ดอเลาะ

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น