กระบี่ : แจ้งเตือนเฝ้าระวังอุทกภัยและคลื่นลมแรง ในช่วงเปลี่ยนผ่านจากฤดูฝน เป็นฤดูหนาว
นายอนุวรรตน์ โหมดพริ้ง รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ เปิดเผยว่า ตามที่กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ ได้แจ้งให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ/ท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยในช่วงฤดูฝนและดำเนินการป้องกันและแก้ไขปัญหาอุทกภัย วาตภัย ประกอบกับกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้ติดตามการคาดหมายลักษณะอากาศร่วมกับกรมอุตุนิยมวิทยา พบว่า เดือนตุลาคม ปี 2567 เป็นช่วงที่เปลี่ยนจากฤดูฝนเข้าสู่ฤดูหนาว บริเวณประเทศไทยตอนบนปริมาณฝนและอุณหภูมิจะลดลง และเริ่มมีอากาศหนาวในตอนเช้า โดยเฉพาะตั้งแต่กลางเดือนเป็นต้นไป เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย เริ่มปรับเป็นมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือพัดปกคลุมแทน และบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีน หรือมวลอากาศเย็น จะแผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบน เป็นระยะ ๆ ส่วนร่องมรสุมจะเลื่อนลงไปพลาดผ่านบริเวณภาคกลางตอนล่าง ภาคตะวันออกและภาคใต้ตอนบนนอกจากนี้อาจมีพายุหมุนเขตร้อนเคลื่อนตัวผ่านเข้าใกล้หรือเคลื่นเข้าสู่ประเทศไทยบริเวณภาคตะวันออกและต่อเนื่องลงมาจนถึงอ่าวไทยตอนบน และภาคใต้ ทำให้ภาคใต้มีฝนตกชุกหนาแน่น สถานการณ์ดังกล่าวอาจส่งผลให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่งในบางแห่ง
รองผู้ว่าราชการจังหวัด รักษาราชการแทนผู้ว่าราชการจังหวัดกระบี่ กล่าวว่า เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับสถานการณ์อุทกภัยที่อาจเกิดขึ้นในพื้นที่จังหวัดกระบี่ จึงขอให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยอำเภอ/ท้องถิ่น และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เฝ้าระวังและติดตามสถานการณ์ สภาพอากาศ สถานการณ์น้ำและเหตุการณ์ที่อาจส่งผลให้เกิดสาธารณภัย รวมทั้งวิเคราะห์และประเมินสถานการณ์น้ำในพื้นที่ รวมทั้งวางแผนการติดตั้งเครื่องจักรกลสาธารณภัยในพื้นที่เสี่ยงอุทกภัยเป็นการล่วงหน้า เพื่อให้การปฏิบัติการช่วยเหลือผู้ประสบภัยเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ทันต่อสถานการณ์ พร้อมทั้งแจ้งเตือนให้ประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงหรือพื้นที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบรับทราบสถานการณ์และแนวทางการปฏิบัติตนให้เกิดความปลอดภัยผ่านทุกช่องทางการสื่อสาร ตลอดจนขอให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้บริหารองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น อาสาสมัคร แจ้งข้อมูลข่าวสารให้ประชาชน ทราบอย่างทั่วถึงอีกทางหนึ่งด้วย ส่วนการดูแลสถานที่ท่องเที่ยว ทั้งสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติและในพื้นที่ติดชายฝั่งทะเล ขอให้หน่วยงานที่มีหน้าที่กำกับดูแล เช่น บริเวณน้ำตก ถ้ำ ชายหาดต่าง ๆ กำหนดมาตรการในการแจ้งเตือนการปิดกั้นหรือห้ามบุคคลใดเข้าพื้นที่ตลอดจนกำชับสถานประกอบการโรงแรมในพื้นที่ชายทะเลสื่อสารให้นักท่องเที่ยวระมัดระวังและห้ามลงเล่นน้ำในช่วงที่มีคลื่นลมแรงโดยเด็ดขาด กรณีมีแนวโน้มเกิดคลื่นลมแรง คลื่นซัดชายฝั่ง ให้ผู้รับผิดชอบในพื้นที่แจ้งเตือนการเดินเรือ ทั้งเรือเล็ก เรือประมง เรือท่องเที่ยว ให้เดินเรือด้วยความระมัดระวัง ส่วนประชาชนที่อาศัยอยู่ในพื้นที่เสี่ยงที่อาจได้รับผลกระทบจากกรณีคลื่นซัดชายฝั่งขอให้ออกห่างจากพื้นที่ชายฝั่งทะเล และงดกิจกรรมทางทะเล กรณีสถานการณ์มีแนวโน้มรุนแรงในพื้นที่ให้ผู้อำนวยการสั่งการอพยพประชาชนในพื้นที่เสี่ยงภัยไปยังพื้นที่ปลอดภัย หรือศูนย์พักพิงที่จัดเตรียมไว้
โดยทันที ทั้งนี้ให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์อำเภอ รายงานสถานการณ์และการดำเนินการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยให้กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดกระบี่ทราบ ผ่านทางกลุ่มไลน์แจ้งเหตุด่วนภัยพิบัติกระบี่ หรือทางโทรสารหมายเลข 0 7561 2735 จนกว่าสถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ
0 ความคิดเห็น