(บพท.) วิจัยชุมชนตั้งเป้า“สุรินทร์เป็น HUB การผลิตเส้นไหมคุณภาพ”

 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) วิจัยชุมชนตั้งเป้า“สุรินทร์เป็น HUB การผลิตเส้นไหมคุณภาพ”


ผศ. ดร.มาโนช ริทินโย คณะวิศวกรรมศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลอีสาน นักวิจัยจากโครงการ “การพัฒนาศักยภาพการผลิตผ้าไหม ผลิตภัณฑ์และการบริการสร้างสรรค์ ตามรอยอารยธรรมของอีสานใต้ด้วยเทคโนโลยีพร้อมใช้” ซึ่งสนับสนุนโดย หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) กล่าวว่า จังหวัดสุรินทร์เป็นแหล่งผลิตผ้าไหมที่ขึ้นชื่อ ดังนั้น โจทย์การพัฒนาผ้าไหมให้มีคุณภาพจึงเป็นโจทย์แรกของการทำงาน โดยในระยะต้นน้ำต้องยกระดับการปลูกหม่อนเลี้ยงไหม หลังจากลงพื้นที่สำรวจการผลิตเส้นไหม พบว่า ในจังหวัดสุรินทร์สามารถผลิตเส้นไหมได้เพียงปีละ 37 ล้านบาทเท่านั้น สวนทางกับความต้องการของตลาดในจังหวัดที่ต้องการเส้นไหมปีละ 1,000 ล้านบาท เพื่อนำไปทอเป็นผืนผ้า เบื้องต้นจึงต้องนำเข้าเส้นไหมมาจากจังหวัดใกล้เคียงอย่างจังหวัดชัยภูมิ นครราชสีมา และบุรีรัมย์


“ในส่วนต้นน้ำ นักวิจัยจึงเข้าไปช่วยวิจัยเรื่องการจัดการเรื่องดิน น้ำและการตัดแต่ง เพื่อให้ได้ใบหม่อนให้มีคุณภาพ ทำให้ยกระดับการเลี้ยงไหมได้ดีขึ้น ขณะที่ส่วนกลางน้ำเป็นการแก้ปัญหาการเลี้ยงหนอนไหมแบบซ้อนรุ่น และปรับเรื่องการให้อาหารที่ถูกต้อง การจัดโรงเรือนและปรับสภาวะแวดล้อมการเลี้ยงที่เหมาะสม เบื้องต้น ทำให้ได้เปอร์เซ็นต์เปลือกรังเพิ่มจากอยู่ที่ 12-15% เป็น 18 เปอร์เซ็นต์ โดยทุก 1 เปอร์เซ็นต์ที่เพิ่มขึ้นเท่ากับได้ เส้นไหมเพิ่มขึ้นรังละ 30 เมตร” 



ในส่วนเทคโนโลยีที่เหมาะสมเพื่อผลิตเส้นไหมและการเตรียมเส้นไหม นักวิจัยได้พัฒนาเครื่องจักรสำหรับการผลิตเส้นไหมและการเตรียมเส้นไหม ประกอบด้วย เครื่องสาวเส้นไหม เครื่องช่วยฟอกและย้อมสีเส้นไหม เครื่องตีและควบเกลียวเส้นไหม เครื่องขึ้นลำมัดหมี่ เครื่องค้นหูกเส้นไหม และเครื่องช่วยขึ้นม้วนเส้นไหม ซึ่งทำให้สามารถผลิตเส้นไหมให้มีคุณภาพเกรด A และประสิทธิภาพการผลิตเส้นไหมสูงขึ้น 50 เปอร์เซ็นต์ 

“กระบวนการต่าง ๆ ที่เข้าไปทำวิจัยทั้งต้นน้ำ กลางน้ำและปลายน้ำ นอกจากตอบโจทย์กลุ่มเป้าหมาย และลดการซื้อเส้นไหมจากที่อื่นได้ 100 % สามารถลดความเมื่อยล้าจากกรรมวิธีการผลิตของกลุ่มผู้ผลิตเส้นไหมในขั้นตอนต่างๆ แล้ว " ที่สำคัญคือ การรสร้างนวัตกรรมชุมชนที่มีทักษะในการเสริมสร้าง การต่อยอด และการขยายความรู้ เพื่อให้เกิดการพัฒนาอาชีพอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะนำไปสู่การเสริมสร้างความเข้มแข็งของเศรษฐกิจชุมชนให้มีความมั่นคงมากยิ่งขึ้น และสุดท้ายเราตั้งเป้าว่าจังหวัดสุรินทร์จะเป็น HUB ของเส้นไหม เมื่อนึกถึงเส้นไหมที่มีคุณภาพต้องที่จังหวัดสุรินทร์เท่านั้น”


ด้านแม่บัวไข เติมศิลป์ นวัตกรชุมชนและประธานกลุ่มปลูกหม่อนเลี้ยงไหมบ้านห้วยบง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ ได้สะท้อนมุมมองของงานวิจัยที่เข้ามาสนับสนุนให้เกิดการรวมกลุ่ม ว่า หลังจากมีนักวิจัยเข้ามาทำให้เกิดการทำงานที่เป็นระบบและเกิดความสามัคคีในชุมชน

จากจุดเริ่มต้นที่ต้องการผลิตวัตถุดิบอย่างเส้นไหมให้ทอเป็นผ้าไหมสุรินทร์ที่มีคุณภาพ สู่โจทย์วิจัยในการพัฒนาเพื่อยกระดับขีดความสามารถของนวัตกรชุมชนในวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จ ภายใต้การทำงานวิจัยที่ใช้โจทย์ชุมชนเป็นตัวตั้งต้นโดยคำนึงถึงปัญหา ความต้องการ หรือความสนใจของคนในชุมชน ที่มุ่งเน้นการหาทางแก้ไขหรือพัฒนาชุมชนให้ดีขึ้น.


........................... วัฒนะ แก้วก่า/รายงาน

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น