ปกครองทหารกู้ภัยโก-ลก ร่วมอพยพชาวบ้านกว่า 100 ชีวิต แบบทุลักทุเลเช้ายันดึก หนีมวลน้ำป่าที่ระบายลงทะเล มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย

 นราธิวาส/ข่าว-นูอารีซ๊ะ ยะยือริ///

ปกครองทหารกู้ภัยโก-ลก ร่วมอพยพชาวบ้านกว่า 100 ชีวิต แบบทุลักทุเลเช้ายันดึก หนีมวลน้ำป่าที่ระบายลงทะเล มีผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย เป็นเด็กและคนชรา

 สำหรับความคืบหน้าเกี่ยวกับสภาวะน้ำท่วมจากพื้นที่ จ.นราธิวาส แจ้งว่า ล่าสุด สภาวะฝนได้ตกทิ้งช่วงตั้งแต่ในช่วงคืนที่ผ่านมา ส่งผลทำให้ปริมาณน้ำในแม่น้ำสายหลัก 3 สาย คือ แม่น้ำบางนรา แม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำโก-ลก ที่เอ่อล้นตลิ่งในช่วง 3 วันที่ผ่านมา มีปริมาณลดลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้น้ำท่วมขังในพื้นที่ทางการเกษตรและบ้านเรือนของประชาชนเป็นวงกว้างในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ มีปริมาณน้ำท่วมขังลดลงอย่างต่อเนื่อง

 จากการติดตามมวลน้ำป่าที่ไหลระบายจากพื้นที่ อ.สุคิรินและแว้ง ลงสู่แม่น้ำโก-ลก เพื่อระบายลงสู่ทะเลปากอ่าวด้าน อ.ตากใบ พบว่า มวลน้ำป่าก้อนนี้ได้ไหลผ่านบริเวณหมู่บ้านโคกกลาง ม.2 และบ้านปาดังยอ ม.3 ต.มูโนะ ซึ่งเป็นหมู่บ้านลุ่มต่ำริมตลิ่ง ทำให้มวลน้ำป่าก้อนนี้ได้ไหลทะลักเข้าท่วมทั้ง 2 หมู่บ้าน โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังสูงโดยเฉลี่ย 1 เมตร ถึง 1.80 เมตร ซึ่งมีชาวบ้านซึ่งส่วนใหญ่เป็นชายและหญิงชรา รวมทั้งเด็กเล็กและผู้ป่วยจำนวนหนึ่งที่ตกค้างอาศัยอยู่กว่า 100 คน ได้รับความเดือดร้อนต้องเร่งอพยพออกจากพื้นที่เป็นการเร่งด่วน


 นายอนิรุทร บัวอ่อน นายอำเภอสุไหงโก-ลก ร.ท.กลวัชร ตาวงศ์ ผบ.ร้อยปืนเล็กที่ 4 ชุดเฉพาะกิจนาวิกโยธิน กองทัพเรือ 33 และนายวิชิตชาติ อุดมลาภเจริญกิจ หัวหน้ามูลนิธิเซิ้งหมู่ธารน้ำใจสุไหงโก-ลก พร้อมกำลังเจ้าหน้าที่กว่า 60 ชีวิต ได้นำเรือท้องแบนติดเครื่องยนต์ และเรือพาย ฝ่ากระแสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากตั้งแต่ช่วงเช้ายันดึก ตระเวนขนย้ายชาวบ้านแต่ละครัวเรือน ด้วยความยากลำบากที่ต้องฝ่ากระแสน้ำ ท่วมขังด้วยความระมัดระวัง ที่แต่ละเที่ยวสามารถนำผู้ประสบภัยออกมาได้เที่ยวละกว่า 10 คน และแต่ละเที่ยวใช้เวลานานเกือบ 1 ชั่วโมง เพื่อนำไปอาศัยอยู่ชั่วคราวที่ศูนย์อพยพภายในโรงเรียนดารุลฟุรกอน และโรงเรียนบ้านลูโบ๊ะลือซง


และจากสภาวะน้ำท่วมขังในครั้งนี้ แม้ว่าโดยภาพรวมจะมีปริมาณน้ำท่วมขังลดลงตามลำดับ แต่การสัญจรไปมายังเป็นอุปสรรคต่อประชาชนผู้ใช้รถใช้ถนน เนื่องจากยังมีน้ำท่วมขังถนนสายหลัก 6 สาย ที่ไม่สามารถสัญจรไปมาได้ โดยมีปริมาณน้ำท่วมขังโดยเฉลี่ยสูง 60 ถึง 100 ซ.ม. ประกอบด้วย 1. ถนนสายบ้านตันหยงมัส อ. ระแงะ จ. นราธิวาส ที่หลักกิโลเมตรที่ 5 , 2. ถนนสายบ้านมะนังตายอ อ. ยี่งอ , เมือง จ. นราธิวาส หลักกิโลเมตรที่ 5 ถึง 7 , 3. ถนนสายบ้านบริจ๊ะ อ. ศรีสาคร,รือเสาะ จ.นราธิวาส 4. ถนนแยกทางหลวงภายในศูนย์ราชการ อ. เมืองนราธิวาส จ. นราธิวาส 5. ถนนแยกทางหลวงบ้านป่าไผ่ อ. ระแงะ จ. นราธิวาส และ 6. ถนนแยกทางหลวงบ้านบูเก๊ะตา อ. แว้ง จ.นราธิวาส หลักกิโลเมตรที่ 6 ถึง 7


ล่าสุดจังหวัดนราธิวาส สรุปผลกระทบจากสภาวะน้ำท่วมในครั้งนี้ จำนวน 13 อำเภอ 77 ตำบล 591 หมู่บ้าน 74 ชุมชน 1 ซอย 98,051 ครัวเรือน 358,602 คน มีชาวบ้านได้รับบาดเจ็บ 1 ราย คือ นางเจ๊ะแย ตาเยะ อายุ 75 ปี ชาวบ้านเสียชีวิต 2 ราย คือ 1.เด็กหญิงซาฟีรา ชารานา อายุ 12 ปี และ 2.นายริน แดงนำ อายุ 82 ปี บ้านถูกกระสน้ำที่ไหลเชี่ยวกรากเสียหายทั้งหลัง จำนวน 2 หลัง เสียหายบางส่วน 17 หลัง มัสยิดถูกน้ำท่วมขัง 60 แห่ง วัดถูกน้ำท่วมขัง 35 แห่ง โรงเรียนมีน้ำท่วมขัง 250 แห่ง สถานที่ราชการน้ำท่วมขัง 18 แห่ง ถนนถูกน้ำท่วมขัง 148 สาย คอสะพานถูกน้ำไหลเชี่ยวกรากพัดเสียหาย 7 แห่ง ดินสไลด์ทับเส้นทาง 17 สาย เสาไฟฟ้าล้มทับเส้นทาง 12 แห่ง พื้นที่ทางการเกษตรน้ำท่วมขัง 4,843 ไร่ 

แต่ถึงอย่างไรก็ตามหากสภาวะฝนไม่ตกลงมาอย่างซ้ำหนักในอีกละลอก จะส่งผลทำให้พื้นที่น้ำท่วมขังลดลงอย่างต่อเนื่องในพื้นที่ทั้ง 13 อำเภอ และประชาชนจะได้รับผลกระทบเพียงในพื้นที่ที่อาศัยอยู่ริมตลิ่งของแม่น้ำสายหลัก 3 สาย และต้องใช้เวลานานกว่า 1 สัปดาห์ สภาวะน้ำท่วมขังจะกลับคืนมาสู่สภาวะปกติ 

   ///////////////////////////////////


แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น