ปภ. รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แผ่นดินไหวและการให้ความช่วยเหลือประชาชน ย้ำ ทุกหน่วยงานร่วมเป็นกลไกการทำงานภายใต้ บกปภ.ช.

 ปภ. รายงานความคืบหน้าสถานการณ์แผ่นดินไหวและการให้ความช่วยเหลือประชาชน ย้ำ ทุกหน่วยงานร่วมเป็นกลไกการทำงานภายใต้ บกปภ.ช. เพื่อช่วยเหลือเยียวยาประชาชนในทุกพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ


วันนี้ (29 มีนาคม 2568) เวลา 08.00 น. ณ ห้องกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ในฐานะเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ สรุปสถานการณ์แผ่นดินไหวและความคืบหน้าในการให้ความช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว
นายภาสกร บุญญลักษม์ อธิบดีกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ในฐานะเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ เปิดเผยว่า จากกรณีเหตุแผ่นดินไหวศูนย์กลางที่ประเทศเมียนมา ขนาด 8.2 ลึก 10 กิโลเมตร ในช่วงบ่ายของเมื่อวานนี้ ทำให้ประชาชนในหลายพื้นที่ทั่วประเทศไทยได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง สามารถรับรู้แรงสั่นไหวได้ในพื้นที่ รวม 57 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน น่าน แม่ฮ่องสอน ลำปาง พะเยา แพร่ ตาก กำแพงเพชร นครสวรรค์ พิจิตร พิษณุโลก เพชรบูรณ์ สุโขทัย อุตรดิตถ์ อุทัยธานี กาฬสินธุ์ ขอนแก่น ชัยภูมิ นครพนม นครราชสีมา บุรีรัมย์ มหาสารคาม ยโสธร เลย สกลนคร อุดรธานี ชัยนาท นครนายก นครปฐม นนทบุรี ปทุมธานี พระนครศรีอยุธยา ลพบุรี สมุทรปราการ สมุทรสงคราม สมุทรสาคร สิงห์บุรี สุพรรณบุรี สระบุรี อ่างทอง จันทบรี ฉะชิงเทรา ชลบุรี ปราจีนบุรี ระยอง สระแก้ว กาญจนบุรี ประจวบคีรีขันธ์ เพชรบุรี ราชบุรี กระบี่ ชุมพร นครศรีธรรมราช ระนอง สุราษฎร์ธานี รวมถึงกรุงเทพมหานคร

โดยมีแผ่นดินไหวตาม (Aftershock) ขนาด 2.8 – 7.1 รวม 56 ครั้ง เบื้องต้นได้รับรายงานความเสียหาย 13 จังหวัด และกรุงเทพมหานครซึ่งเป็นพื้นที่ที่มีผู้เสียชีวิต จำนวน 9 ราย ผู้บาดเจ็บ จำนวน 9 ราย และผู้สูญหาย จำนวน 101 ราย ปัจจุบันมีการประกาศเขตการให้ความช่วยเหลือผู้ประสบภัยพิบัติกรณีฉุกเฉินแล้ว 2 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดแพร่ รวมทั้งกรุงเทพมหานครที่มีการประกาศเขตพื้นที่ประสบภัยพิบัติเต็มพื้นที่ ในส่วนของความเสียหายในพื้นที่จังหวัดอื่นนั้นขณะนี้ได้รับรายงานความเสียหายจาก 14 จังหวัด ดังนี้
♦️จ.เชียงใหม่ อาคารจอดรถโรงพยาบาลมหาราชนครเชียงใหม่ อาคารคอนโดศุภาลัยมอนเต้ 1 และ 2 ผนังเกิดความเสียหาย อาคารดวงตะวันคอนโดมิเนียมสูง 8 ชั้น โครงสร้างได้รับความเสียหาย วัดสันทรายต้นกอกมีเจดีย์ร้าว และอ.ดอยเต่าส่วน ต่อเติมบ้านเรือนราษฎรได้รับผลกระทบ จำนวน 1 หลัง อ.พร้าว ต.ทุ่งหลวง ม.6 บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 2 หลัง ต.สันทราย บ้านเรือนประชาชนได้รับความเสียหาย 1 หลัง อ.หางดง ต.หางดง หลังคาของอาคารหอพักรัชดาได้รับความเสียหายจากแทงค์น้ำตกจากเสา กำแพงบ้านประชาชนล้มประมาณ 10 ม. อาคารโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 31 มีรอยร้าวตามอาคารเรียน วัดน้ำล้อม ต.บวกค้าง อ.สันกำแพง วิหารมีรอยร้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

♦️จ.เชียงราย ผนังอาคารโรงพยาบาลเชียงรายประชานุเคราะห์เกิดรอยร้าวเล็กน้อย หลังคาของอาคารวัฒนธรรม วัดท่าข้าม ต.ศรีดอนชัย ได้รับความเสียหายบางส่วน อ.ป่าแดด คานคอนกรีตบริเวณสถานีรถไฟป่าแดด (อยู่ระหว่างการก่อสร้าง) หล่นทับรถยนต์ จำนวน 6 คัน ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
♦️จ.ลำพูน อ.ป่าซาง ต.ปาซาง ซุ้มประตูวัดพาณิชน์สิทธิการามโค่นล้มเสียหาย ต.แม่แรง หอระฆังวัดดอนตอง เสียหาย อ.ลี้ ต.ป่าไผ่ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง ต.ลี้ บ้านเรือนเสียหาย 23 หลัง ผนังอาคารโรงพยาบาลลี้มีรอยร้าว อ.บ้านธิ ต.ห้วยหยาบ โรงเก็บไม้ถล่มเสียหาย อ.เมืองฯ ต.บ้านแป้น ซุ้มประตูบ้านผู้ใหญ่บ้านล้มเสียหาย ต.หนองช้างคืน โรงเก็บของพังเสียหาย ต.ริมปิง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2 หลัง ต.ป่าสัก ระบบท่อประปาหมู่บ้านเสียหาย ต.เหมือนจี้ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 2 หลัง ต.มะเขือแจ้ บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง ต.หมืองง่า หลังคาโบสถ์วัดบ้านหลุกเสียหาย ต.ต้นธง ผนังอาคาร รพ.ลำพูน เสียหาย อ.บ้านโฮ่ง ต.บ้านโฮ่งหอนาฬิกาบ้านห้วยกาน เสียหาย ผนังอาคาร รพ.บ้านโฮ่ง เสียหาย ต.หนองปลาสวาย บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง เมรุวัดสันเจดีย์ริมปิง เสียหาย อ.เวียงหนองล่อง ต.หนองล่อง อาคารที่ว่าการอำเภอเวียงหนองล่อง มีรอยร้าวอ.แม่ทา ต.ทาสบเส้า ผนังอาคาร รพ.แม่ทา มีรอยร้าว อาคารสำนักงานสาธารณสุขอำเภอแม่ทามีรอยร้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

♦️จ.ลำปาง อ.สบปราบ ต.สมัย บ้านเรือนเสียหาย 2 หลัง สำนักสงฆ์ 1 แห่ง อ.เกาะคา ห้องน้ำกองร้อย อส.
อำเภอเกาะคา เสียหาย ศาลาวัดลำปางหลวงเกิดรอยร้าว อ.เมืองฯ อาคาร รพ.ลำปาง มีรอยร้าว เสาอาคาร มทร.ล้านนาลำปางเสียหาย อ.แม่ทะ ต.บ้านกิ่ว บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 6 หลัง ต.นาครัว บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง โรงรถ 1 แห่ง อาคาร อบต.บ้านกิ่ว มีรอยร้าว 2 หลัง อ.แม่พริก ต.แม่พริก บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 10 หลัง อาคาร รพ.แม่พริก มีรอยร้าว อ.งาว ต.บ้านแหง บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 7 หลัง อาคารเก็บพืชผลการเกษตร 2 หลัง อ.ห้างฉัตร ต.ปงยางคก บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 3 หลัง ต.แม่สัน บ้านเรือนประชาชนเสียหาย 1 หลัง ต.ห้างฉัตร วัดพระธาตุปางม่วง เสียหาย อ.วังเหนือ ต.วังซ้าย กุฏิวัดบ้านสบม่า เสียหายไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและสียชีวิต
♦️จ.แม่ฮ่องสอน อาคารศาลากลางจังหวัดแม่ฮ่องสอนหลังใหม่มีร้อยร้าว อ.ปาย ศาลาริมทางแหล่งท่องเที่ยวกองแลน อาคารโรงพยาบาลปาย โรงเก็บกระเทียม ได้รับความเสียหาย อ.ขุนยวม อาคารโรงพยาบาลขุนยวม มีรอยร้าว อ.สบเมย ทางเดินเชื่อมอาคารโรงพยาบาลสบเมย ได้รับความเสียหายไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
♦️จ.แพร่ อ.เมืองฯ โรงจอดรถภายในบ้านเลขที่ 234 ต.ป่าแมต ได้รับความเสียหายบางส่วน
ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
♦️จ.เพชรบูรณ์ อ.เมืองฯ อาคารโรงเรือนการเกษตร ได้รับความเสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
♦️จ.สุโขทัย อ.ศรีสำโรง อาคารโรงยาสูบ เสียหาย 1 หลัง ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต3
♦️กรุงเทพมหานคร เขตจตุจักร อาคารที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างถล่ม บริเวณถนนกำแพงเพชร 2 แขวงจตุจักรลักษณะเป็นอาคารระหว่างการก่อสร้าง สูง 30 ชั้น เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิต 8 ราย ผู้ได้รับบาดเจ็บ 9 ราย ผู้สูญหาย 101 ราย เขตบางซื่อ เครนก่อสร้างถล่ม บริเวณแยกบางโพ มีผู้เสียชีวิต 1 ราย
♦️ จ.พระนครศรีอยุธยา อ.ลาดบัวหลวง แท็งก์น้ำทรุดตัวในพื้นที่ ม.6,7 ต.สิงหนาท ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
♦️จ.นนทบุรี อ.เมืองฯ รพ.พระนั่งเกล้า ฝ้าเพดานบนชั้น 17 ร่วง มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 1 ราย ห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์งามวงศ์วาน ตัวอาคารมีรอยแตกร้าวและร่วงลงพื้น 3 จุด ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
♦️จ.สมุทรปราการ อ.พระประแดง วัดโปรดเกศเชษฐาราม ม.11 ต.ทรงคนอง ระเบียงบริเวณด้านหน้าโบสถ์เกิดการแตกร้าวเล็กน้อย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
♦️จ.สมุทรสาคร อ.เมืองฯ อาคาร รพ.สมุทรสาคร มีรอยร้าว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต
♦️จ.ชัยนาท อ.เมืองฯ เมรุวัดลัดเสนาบดี เสียหาย ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต

ในส่วนของการให้ความช่วยเหลือ ในทุกพื้นที่ได้มีหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งหน่วยทหาร ตำรวจ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น องค์กรสาธารณะกุศล ภาคเอกชน และจิตอาสา และพลเรือน ได้เข้าให้การช่วยเหลือและสำรวจความเสียหายเพื่อให้การช่วยเหลือตามระเบียบกฎหมายที่เกี่ยวข้อง สำหรับการปฏิบัติของกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ (บกปภ.ช.) เมื่อคืนนั้น ได้สั่งการให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ระดมทีมค้นหาและกู้ภัยในเขตเมือง (USAR) จำนวน 48 นาย พร้อมอุปกรณ์ค้นหาสัญญาณชีพและอุปกรณ์พิเศษเข้าสนับสนุนการปฏิบัติให้กับกรุงเทพมหานครในบริเวณจุดที่มีอาคารถล่มและมีผู้ติดค้างและสูญหาย และได้ร่วมกับ กสทช. และผู้ให้บริการเครือข่ายมือถือส่ง SMS แจ้งประชาชน จำนวน 4 ครั้ง โดยเมื่อเวลา 14.42 น. แจ้งประชาชนสามารถเข้าอาคารได้กรณีจำเป็น เวลา 16.07 น. แจ้งข้อควรปฏิบัติกรณีเกิดแผ่นดินไหว เวลา 16.09 น. แจ้งข้อควรปฏิบัติหลังเกิดแผ่นดินไหว และเวลา 16.45 น. แจ้งประชาชนสามารถเข้าอาคารได้หากได้ตรวจสอบโครงสร้างอาคารแล้ว
ด้านนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้สั่งให้กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) เตรียมพร้อมกำลังพลและเครื่องจักรกลสาธารณภัยของศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขตทั้ง 18 ศูนย์เขต เพื่อสนับสนุนการปฏิบัติงานในพื้นที่ และเตรียมพร้อมสนับสนุนหากได้รับการร้องขอ ปัจจุบัน ปภ. ได้ส่งกำลังพลพร้อมด้วยเครื่องมือ อุปกรณ์ และเครื่องจักรกลสาธารณภัย กว่า 14 รายการ จากศูนย์ป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยเขต 1 ปทุมธานี เขต 2 สุพรรณบุรี เขต 3 ปราจีนบุรี และเขต 16 ชัยนาท เข้าร่วมปฏิบัติการสนับสนุนการค้นหาผู้ประสบภัยในพื้นที่กรุงเทพมหานคร และเตรียมความพร้อมเครื่องจักรกลสาธารณภัยกว่า 355 รายการ ให้พร้อมสนับสนุนการช่วยเหลือประชาชนของจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ตลอด 24 ชั่วโมง
“กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยในฐานะฝ่ายเลขานุการกองบัญชาการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยแห่งชาติ ได้เน้นย้ำให้ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้าจังหวัด และศูนย์บัญชาการเหตุการณ์ส่วนหน้ากรุงเทพมหานคร ติดตามสถานการณ์และผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นจากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และเร่งสำรวจความเสียหายและให้ความช่วยเหลือประชาชนผู้ประสบภัยตามระเบียบหลักเกณฑ์ที่ทางราชการกำหนด” นายภาสกร อธิบดี ปภ. กล่าว
กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจะปักหลักติดตามสถานการณ์และประสานการให้ความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด โดยประชาชนสามารถติดตามความคืบหน้าของสถานการณ์ การให้ความช่วยเหลือ รวมถึงวิธีการปฏิบัติตนให้ปลอดภัย ได้ทาง Facebook กรมป้องกันและบรรเทาาสาธารณภัย DDPM และ X @DDPMNews และหากประชาชนได้รับผลกระทบจากเหตุแผ่นดินไหว สามารถแจ้งเหตุและขอความช่วยเหลือได้ผ่านไลน์ “ปภ.รับแจ้งเหตุ1784” โดยเพิ่มเพื่อน Line ID @1784DDPM หรือสายด่วนนิรภัย 1784 ตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อประสานให้การช่วยเหลือโดยด่วนต่อไป ////////////

แสดงความคิดเห็น

0 ความคิดเห็น