พลิกโฉมการเมืองท้องถิ่น: "สัปเหร่อ" ลงสนามเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่

 พลิกโฉมการเมืองท้องถิ่น: "สัปเหร่อ" ลงสนามเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่

การลงสมัครรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ของ "ปกรณ์" ผู้มีอาชีพสัปเหร่อ ได้สร้างปรากฏการณ์ใหม่ในเวทีการเมืองท้องถิ่น สร้างความสนใจและเป็นที่จับตามองอย่างมากจากประชาชนและสื่อมวลชน

การที่บุคคลซึ่งประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับความตายและความสูญเสียโดยตรง ตัดสินใจก้าวเข้าสู่สนามการเมืองนั้น สะท้อนให้เห็นถึงความเปลี่ยนแปลงและความหลากหลายในสังคมไทยที่เปิดกว้างสำหรับบุคคลจากหลากหลายอาชีพและภูมิหลัง ให้เข้ามามีส่วนร่วมในการพัฒนาท้องถิ่น

สัปเหร่อผู้นี้มีความใกล้ชิดกับชุมชนอย่างมาก พวกเขาเป็นผู้ที่อยู่เคียงข้างชาวบ้านในยามทุกข์ยาก เป็นผู้ที่รับรู้และเข้าใจถึงปัญหาและความต้องการของคนในชุมชนอย่างลึกซึ้ง ซึ่งอาจเป็นข้อได้เปรียบที่ทำให้พวกเขาสามารถเข้าถึงและเข้าใจความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง

คุณสมบัติที่น่าสนใจ:

 * ความเข้าใจปัญหาและความต้องการของชุมชน: จากบทบาทหน้าที่ที่ต้องเกี่ยวข้องกับผู้คนในทุกช่วงชีวิต สัปเหร่อจึงมีความเข้าใจในปัญหาและความต้องการของชุมชนอย่างลึกซึ้ง สามารถนำเสนอนโยบายที่ตอบสนองต่อความต้องการของประชาชนได้อย่างแท้จริง

 * ความซื่อสัตย์และจริงใจ: อาชีพสัปเหร่อต้องอาศัยความซื่อสัตย์และจริงใจในการปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งสำคัญสำหรับผู้นำท้องถิ่นที่ต้องได้รับความไว้วางใจจากประชาชน

 * ความเสียสละและจิตอาสา: การทำงานในอาชีพสัปเหร่อต้องอาศัยความเสียสละและจิตอาสาในการช่วยเหลือผู้อื่น ซึ่งคุณสมบัติเหล่านี้เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับผู้นำที่ต้องการพัฒนาท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้น

 * มุมมองที่แตกต่าง: การมีบุคคลจากหลากหลายอาชีพและภูมิหลังเข้ามามีส่วนร่วมในการเมืองท้องถิ่น จะช่วยให้เกิดมุมมองที่แตกต่างและหลากหลายในการพัฒนาท้องถิ่น ซึ่งอาจนำไปสู่แนวทางใหม่ๆ ในการแก้ไขปัญหาและพัฒนาเมืองกระบี่

การเลือกตั้งครั้งนี้จึงเป็นโอกาสสำคัญที่ประชาชนชาวเมืองกระบี่จะได้เลือกผู้นำที่มีความเข้าใจในปัญหาและความต้องการของชุมชนอย่างแท้จริง มีความซื่อสัตย์และจริงใจ และพร้อมที่จะเสียสละเพื่อพัฒนาท้องถิ่นให้ดียิ่งขึ้นต่อไปสู่อนาคต

ซึ่งบรรยากาศโดยรวมวันแรกของการรับสมัครนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ และสมาชิกสภาเทศบาลเมืองกระบี่ ซึ่งมีผู้สมัครนายกเทศมนตรี จากกลุ่มรักปากน้ำกระบี่ใหญ่ นำโดย พ.ต.อ.สมเด็จ สุขการ (เบอร์ 1),

กลุ่มพัฒนาเมืองกระบี่ นำโดย นายอิทธิชัย ตันบุตร(เบอร์ 2) 

และผู้สมัครอิสระ นายปกรณ์ เพชรเครือ (เบอร์3 )

    เมื่อผู้สมัครได้หมายเลขประจำตัว เป็นที่เรียบร้อยแล้ว แต่ละกลุ่ม รวมถึงผู้สมัครอิสระ มีผู้สนับสนุนมามอบมาลัย และดอกไม้ เป็นกำลังใจในการลงสมัครแข่งขันชิงตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองกระบี่ และสมาชิกสภาเทศบาล อย่างคึกคัก