เตรียมฝังร่างสองลุงหลานที่ถูกฆ่าโหด
ญาติพี่น้องบ้านแม่กองคา เตรียมฝังร่าง 2 ลุงหลาน เหยื่อมือปืนโหดที่ยังไม่สามารถจับกุมตัวได้ โดยจะประกอบพิธีทางศาสนา 2 ร่าง ณ คริสตจักรกะเหรี่ยงแบ๊บติสท์ บ้านโป่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ขณะที่ภรรยานายกมล ยังคงเฝ้าดูรูปสามี ระบุขอให้ผู้ก่อเหตุได้รับโทษทางกฎหมายโกรธแค้นไปสามีก็ไม่ฟื้น เฝ้าบอกสามีผ่านรูปว่าไม่ต้องห่วงหลับให้สบาย ตนจะดูแลลูกให้ดีที่สุด
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 ณ คริสตจักรกะเหรี่ยงแบ๊บติสท์บ้านโป่ง อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพและประกอบพิธีทางศาสนา ของ 2 ร่าง คือนายกมล สุกุลกิจ และนายดิเก สุกุลกิจ ผู้เสียชีวิตราษฎรบ้านแม่กองคา ต.แม่ยวม อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน ซึ่งถูก นายยุทธนา จตุพรสีวลี หรือนายบอย อายุ 37 ปี อยู่บ้านเลขที่ 36/2 หมู่ 8 ต.แม่ลาน้อย อ.แม่ลาน้อย จ.แม่ฮ่องสอน ยิงเสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 โดยไม่ทราบสาเหตุ โดยมีประชาชน ชาวบ้าน ญาติพี่น้องของทั้งสองครอบครัว เดินทางมาร่วมไว้ความอาลัยตลอด และ ร่วมแสดงความเสียใจกับ 2 ครอบครัวผู้เสียชีวิต ก่อนจะเคลื่อนร่างผู้เสียชีวิตประกอบพิธีฝังตามประเพณี ณ สุสานกลางคริสต์ชนสัมพันธ์ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน
นางสาวอมลรดา จะเยอะ ภรรยา นายกมล สุกุลกิจ อายุ 41 ปี ราษฎรหมู่ที่ 10 แม่กองคา ตำบลแม่ยวม ได้เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นว่า มาถึงวันนี้ตนสามารถทำใจยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ้างแล้ว แต่เสียใจที่การกลับมาบ้านครั้งนี้เป็นการกลับมาครั้งสุดท้ายของสามี ซึ่งตนกับสามีทำงานต่างจังหวัด จะกลับมาเยี่ยมพ่อสามีที่บ้านแม่กองคา ต.แม่ยวม ทุกๆปีในช่วงเทศกาลสงกรานต์ ทั้งนี้ภรรยานายกมล เล่าว่า นายกมลเป็นเพื่อนกับผู้ก่อเหตุ นายยุทธนา หรือบอย ตอนที่กลับมาบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ สามีทราบว่าเพื่อนหายไปในป่านานหลายวัน ก็ยังมีความคิดช่วยออกตามหาเพื่อนที่หาย กลับมาบ้านรอบนี้ สามียังซื้อกาแฟห่อใหญ่เตรียมมาแบ่งให้กับ นายบอย และน้าที่ถูกยิงเสียชีวิตคนละครึ่ง ที่ผ่านมาสามีก็ไม่เคยเล่าเรื่องอะไรเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุให้ฟัง รู้แค่ว่าสองคนนี้เขาเป็นเพื่อนกัน ตนไม่คิดว่า นายบอย ซึ่งเป็นเพื่อนจะมายิงสามีตนจนเสียชีวิต โดยไม่รู้ว่าสาเหตุอะไรเลย ขณะนี้ตนเองทำใจยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้นได้บ้างแล้ว ขอให้คนก่อเหตุได้รับการลงโทษตามกฎหมาย ตนไม่คิดแค้นเคืองอะไร กับผู้ก่อเหตุ เพราะแค้นไปก็ไม่ทำให้สามีฟื้นขึ้นมาได้ ก็ขอให้เขาได้รับโทษชดใช้ในสิ่งที่เขาทำ ตนก็จะขอใช้ชีวิตที่เหลือทำงานและดูแลลูกๆทั้ง 3 คนให้ดีที่สุด
นาย บุญส่ง สุกุลกิจ เป็นน้องชายลุงดิเก สุกุลกิจ ผู้เสียชีวิต กล่าวเพิ่มเติมว่า ก่อนหน้านี้ชาวบ้านแม่กองคายังมีความหวาดระแวงพากันย้ายไปอาศัยบ้านญาติพี่น้องที่กระจายตามหมู่บ้านต่างๆ ในอำเภอแม่สะเรียง ปล่อยบ้านทิ้งไว้ไม่มีคนอยู่สัตว์เลี้ยงไม่มีใครดูแล เพราะเจ้าหน้าที่ยังไม่สามารถจักกุมผู้ก่อเหตุได้ บ้านแม่กองคายังไม่ปลอดภัยสำหรับพวกเขา แม้ว่ายังมีเจ้าหน้าที่ทหารพรานที่ 36 เจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองแม่สะเรียง ร่วมถึงผู้นำชุมชน จะจัดกำลังจัดเวรยามมาเฝ้าระวังรักษาความปลอดภัยก็ตาม ตนจึงได้ขอร้องให้ผู้ชายของแต่ละครอบครัวในหมู่บ้านกลับมาเฝ้าดูแลบ้านตนเองและช่วยกันสอดส่องดูแลในหมู่บ้าน แต่ทุกคนก็ยังหวาดกลัวว่าผู้ก่อเหตุจะหวนกลับมาทำร้ายคนในหมู่บ้าน แม้ว่าจะมีกระแสข่าวว่า พบผู้ก่อเหตุในสถานที่ต่างๆ ในพื้นที่ อ.แม่ลาน้อย ก็ตาม แต่ก็ไม่มีใครยืนยันได้ชาวบ้านก็ยังไม่ไว้วางใจ ซึ่งทุกคนอยากให้เจ้าหน้าที่จับตัวผู้ก่อเหตุได้โดยเร็ว ส่วน จับเป็นไม่ได้ ก็ขอให้จับตาย เพราะถือว่าเป็นบุคคลอันตรายอย่างยิ่ง
เหตุสืบเนื่องจาก หนุ่มวัย 37 ปี จากคนหายเมื่อวันที่ 11 เมษายน จนกลายเป็นฆาตกรยิงชาวบ้าน 2 ศพ โดยไม่ทราบสาเหตุ เมื่อวันที่ 23 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่หน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้จัดกำลังปฏิบัติการค้นหาผู้ก่อเหตุจนถึงวันนี้ ยังไม่พบเบาะแสหรือร่องรอยแต่อย่างใดโดยศาลแม่สะเรียงได้ออกหมายจับมือปืนแล้ว
------------------------------------
นายทศพล บุญพัฒน์ / จ.แม่ฮ่องสอน
0 ความคิดเห็น